ทัวร์ก๊าบๆ มินิซีรีย์ ...บทเรียนจากทริปครึ่งทวีป Outback Australia 2013
ตอนที่ 3.1 พาหนะในการเดินทาง
โพสก่อนหน้านี้พวกเราทัวร์ก๊าบๆ ก็ได้โพสรถคันใหม่ที่จะเป็นพาหนะในการไปลุยรอบทวีปแล้ว บทความนี้ก็เลยถือโอกาสในการที่จะมาเขียนเรื่องราวของพาหนะในการออกเดินทาง (ขอเรียกง่ายๆ ว่ารถแล้วกันเน๊าะ) ว่ารถที่ใช้ในการออกทริปควรเป็นรถแบบไหน ยี่ห้ออะไร เผื่อเพื่อนๆ ที่มีโอกาศได้ออกทริปออกเที่ยวแบบพวกเราจะได้เก็บเป็นทริคเกร็ดเล็ก เกร็ดน้อยในการเดินทางจากประสบการณ์ของพวกเรากันครับ
.
ในทริปครึ่งทวีปเมื่อปี 2013 รถที่ใช้ในทริปนั้นก็คือรถพี่บาส Landrover Discovery series 2 รถเกียร์พังในตำนานนั้นแหละ ฮ่าๆ จากการสอบถามพี่บาสว่าทำไมถึงเลือกที่จะใช้รุ่นนี้ก็ได้ความว่า
.
ก็แหมๆ รถสัญชาติอังกฤษ ภาพพจน์ผู้ดีมีสไตล์ แบบว่าให้นึกถึงภาพฝรั่งหล่อๆ ไว้หนวดเครา ใส่แว่นตาดำ ขับตามกลุ่มรถสำรวจของ UN เพื่อไปยังถิ่นธุรกันดาร โหย!!! แม่งแค่คิดก็โคตรฟินแล้ว (ตราบใดที่เกียร์รถมึงยังไม่พัง มึงก็ยังเท่ได้ 55) ก็นั้นแหละครับ ผู้ชายที่ชอบแนวผจญภัยทุกคนความฝันคืออยากจะมีรถ 4x4 ล้อโตๆ ชุดแต่งเต็มๆ เอาออกไปเที่ยวป่าเขากันทั้งนั้น นั้นคือเหตุผลของทางพี่บาสให้มาเน๊าะ ไม่มีอะไรหรอก อยากหล่อเฉยๆ ปีทั้งปีไม่ได้ไปคลุกฝุ่นที่ไหนหรอก ขับแต่ทางราดยางเรียบๆ นี่แหละครับ
.
รถพี่บาสคันนั้นถึงจะซื้อมามือสอง แบบว่าเก่าของเค้าแต่ใหม่ของเรา ในราคา 16,000 เหรียญ หรือประมาณสี่แสนไทยบาทนิดๆ ในปี 2009 แต่สภาพรถเรียกได้ว่า สภาพเทพบุตร สุดหล่อมาก เครื่องยนต์ดีเซล 2.5 TDI โคตรทรหด ภายในกว้างขวาง สามารถแทบจะยัดสมบัติที่มีอยู่ในบ้านทั้งหมดไปออกทริปได้ ก็อย่างที่เห็นแหละครับ ที่ยัดๆ เอาไปด้วยไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่หรอก ออกจะเกินความจำเป็นด้วยซ้ำ แค่เห็นว่าไหนๆ รถพี่บาสกว้างดีเสียดายพื้นที่เลยยัดๆ มันไปให้เต็ม ก็แค่นั้น 55
.
คราวนี้ทริปหน้า ทริปใหม่ พวกเราก็จะได้ฤกษ์เบิกยาม หาเรื่องไปออกทริป ตลุยรอบทวีปกัน แต่เนื่องจากพี่บาสได้ขายรถทิ้งไปแล้วเนื่องจากเกียร์พังไม่สามารถซ่อมได้ คือราคารถตอนนั้นถ้ารถไม่มีปัญหาอะไรราคาขายต่อก็น่าจะขายได้ประมาณ 7000 เหรียญ แต่ไปลุยครึ่งทวีปเกียร์ดันพัง ไปเข้าศูนย์ ช่างบอกเฉพาะค่าซ่อมเกียร์ 9000 เหรียญ
เป็นเพื่อนๆ จะทำยังไงครับ จะสู้ต่อหรือจะถอย? 55
พี่บาสเลยเลือกที่จะถอยครับ ถอยโดยการไม่ซ่อมศูนย์ แต่เลือกที่จะซ่อมอู่
หลังจากกลับมาจากทริป (โชคดีมากที่กลับมาได้ ขอบคุณพี่ช่างใจดีที่จูนเกียร์กับเปลี่ยนน้ำมันให้ โดยที่ไม่คิดตังค์ ทริปหน้าถ้ามีโอกาศจะแวะไป Say Thank you อยู่) พี่บาสก็เอาไปเข้าให้อู่ซ่อม อู่ตีราคาค่าซ่อมเกียร์มา 1,600 เหรียญ. โหยราคาราวฟ้ากับดินเลยไอ้ราคาศูนย์กับอู่เนี่ย พี่บาสก็บอกใจชื้นขึ้นมานิดนึง แต่ไม่กี่วันหลังจากที่ช่างอู่ได้ลองซ่อม ผลปรากฏว่าไม่เป็นไปตามแผน เกียร์มันพังเกินกว่าจะเยียวยา ซ่อมไม่ได้ ต้องเปลี่ยนเกียร์ลูกใหม่อย่างเดียว ซึ่งก็คือราคา 9,000 เหรียญนั่นแหละ.......เศร้าแป๊ป
คราวนี้เอาไงล่ะ รถวิ่งก็วิ่งไม่ได้แล้ว จอดตายสนิท แน่นิ่งอยู่บนหิ้งในอู่เลย ไปไหนก็ไม่ได้ อยากจะซ่อมก็รับราคาไม่ไหว อีกไหนจะต้องรีบกลับไทยอีก
จากทั้งหมดทั้งมวล พี่บาสเลยตัดสินใจ
"ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วว่ะ ดันสุดๆ ได้เท่านี้ ช่างมันเถอะ ถือว่าวันนี้ไม่ใช่วันของเรา"
พี่บาสเลยตัดสินใจครั้งสุดท้ายโดยการขายรถทั้งคันเป็นซากรถ ในราคา 1200 เหรียญ
.
.....ขอแสดงความเสียใจกับน้องแลนดี้ ที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับ ขอสงบนิ่งเป็นเวลา( แล้วแต่เพื่อนๆ ครับ) เพื่อเป็นการไว้อาลัย.